ในทุกสถานที่ทำงาน ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง งานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีการจัดการสารเคมีและวัตถุอันตราย การตรวจสอบพื้นที่ทำงานก่อนเริ่มงานจึงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ เพราะหากละเลย อุบัติเหตุและความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจไม่เพียงกระทบต่อชีวิตของพนักงาน แต่ยังส่งผลต่อการดำเนินงานขององค์กรในระยะยาว
ความสำคัญของการตรวจสอบพื้นที่ทำงาน
การตรวจสอบพื้นที่ทำงานก่อนเริ่มปฏิบัติงานมีเป้าหมายเพื่อระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ หรือผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงาน โดยมีประโยชน์ดังนี้:
- ลดอุบัติเหตุและอันตราย
การระบุจุดที่อาจเกิดอันตรายและดำเนินการแก้ไขก่อนเริ่มงานช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ เช่น การลื่นล้ม วัตถุหล่น หรือการสัมผัสกับสารเคมีอันตราย - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
สภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย ช่วยให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความกังวลใจจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น - สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร
การให้ความสำคัญกับการตรวจสอบพื้นที่ทำงาน แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจขององค์กรต่อพนักงาน และช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานอย่างปลอดภัย
*** ผู้ที่รับหน้าที่ในการดูแล ความปลอดภัยในการทำงาน คือ ” เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ” หรือ จป.
ผู้ที่สนใจที่จะทำงานเป็น จป ซึ่งจะเเบ่งออกเป็น 5 ระดับ โดยตำแหน่ง จป บางประเภทสามารถทำได้โดยการเข้าอบรมหลักสูตรเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ตามตำแหน่งที่ต้องทำงานปัจจุบันเปิดอบรมได้แก่ จป.หัวหน้างาน, จป. บริหาร และ จป เทคนิค
ติดต่อสอบถามคอร์สเรียน : อีเมล : [email protected]
ขั้นตอนการตรวจสอบพื้นที่ทำงาน
การตรวจสอบพื้นที่ทำงานอย่างเป็นระบบต้องอาศัยความเข้าใจในกระบวนการและเครื่องมือที่เหมาะสม ดังนี้:
1. วางแผนการตรวจสอบ
- กำหนดพื้นที่ตรวจสอบ
ระบุพื้นที่ที่ต้องตรวจสอบ เช่น พื้นที่ทำงานที่สูง พื้นที่แคบ หรือพื้นที่ที่มีการจัดเก็บสารเคมี - กำหนดความถี่ในการตรวจสอบ
พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงควรตรวจสอบบ่อยครั้ง เช่น ทุกวันหรือก่อนเริ่มงานในแต่ละวัน - แต่งตั้งผู้รับผิดชอบ
ควรแต่งตั้งบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย เช่น เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.)
2. ประเมินสภาพแวดล้อม
- ตรวจสอบโครงสร้างและอุปกรณ์
เช่น ตรวจสอบความแข็งแรงของนั่งร้าน สภาพบันได หรือระบบระบายอากาศในพื้นที่ - ตรวจสอบแสงสว่างและการระบายอากาศ
พื้นที่ทำงานต้องมีแสงสว่างเพียงพอ และระบบระบายอากาศที่ดีเพื่อป้องกันการสะสมของก๊าซอันตราย - ระบุและประเมินความเสี่ยง
เช่น พื้นเปียก อุณหภูมิที่ร้อนจัด หรือจุดที่มีความเสี่ยงจากเครื่องจักร
3. จัดการความเสี่ยง
- ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกัน
เช่น ติดตั้งราวกันตกในพื้นที่ทำงานที่สูง หรือวางแนวกั้นบริเวณที่มีวัตถุอันตราย - จัดทำป้ายเตือน
ใช้ป้ายเตือนที่ชัดเจน เช่น ป้ายระวังลื่น ป้ายห้ามเข้า หรือป้ายเตือนเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย - อบรมพนักงาน
จัดอบรมเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัย และการรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
4. ตรวจสอบและบันทึกผล
- ตรวจสอบตามรายการตรวจสอบ (Checklist)
ใช้รายการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าทุกจุดได้รับการตรวจสอบครบถ้วน - บันทึกผลการตรวจสอบ
บันทึกข้อมูลการตรวจสอบเพื่อเป็นหลักฐานและใช้ในการปรับปรุงในอนาคต
ข้อแนะนำสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง
ผู้ปฏิบัติงานควรตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการร่วมสร้างความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน โดยมีข้อแนะนำดังนี้:
- สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)
เช่น หมวกนิรภัย ถุงมือ รองเท้าเซฟตี้ และแว่นตานิรภัย - ปฏิบัติตามขั้นตอนการทำงานอย่างเคร่งครัด
อ่านและปฏิบัติตามคู่มือการทำงาน หรือคำแนะนำจากผู้ควบคุมงาน - รายงานความผิดปกติทันที
หากพบสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย ควรรายงานให้หัวหน้างานหรือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทราบทันที - พัฒนาทักษะด้านความปลอดภัย
เข้าร่วมการอบรมหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
กรณีศึกษา: ผลกระทบจากการละเลยการตรวจสอบพื้นที่
เหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในหลายครั้งมักมีสาเหตุมาจากการละเลยการตรวจสอบพื้นที่ทำงาน ตัวอย่างเช่น:
- อุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรในพื้นที่ก่อสร้าง
การไม่ตรวจสอบสายไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุด ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและไฟไหม้ - อุบัติเหตุลื่นล้มจากน้ำมันที่หกบนพื้น
พื้นที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดหรือติดตั้งป้ายเตือน ทำให้พนักงานลื่นล้มและบาดเจ็บ
สรุป
การตรวจสอบพื้นที่ทำงานก่อนเริ่มปฏิบัติงานเป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง การดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องจะช่วยลดความเสี่ยง สร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน และส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร
ด้วยการร่วมมือของทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ไปจนถึงพนักงาน การปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงจะสามารถดำเนินไปได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น