ข้อมูลและเคล็ดลับเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน ที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

Safety standardsมาตรฐานความปลอดภัย สำหรับ เครื่องจักรในก่อสร้างโยธา

by Javier Anderson
224 views
1. มาตรฐานความปลอดภัย สำหรับ เครื่องจักรในก่อสร้างโยธา

ISO 12100 เป็นมาตรฐานที่มุ่งเน้นการประเมินและการลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรในก่อสร้างโยธา เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้งานเครื่องจักรนั้นปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานและบุคคลรอบข้าง มาตรฐานนี้มีความสำคัญในการออกแบบและผลิตเครื่องจักรที่มีความปลอดภัยเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในกิจกรรมก่อสร้างโยธา

2. คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ ISO 12100

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ ISO 12100

1. แหล่งอันตราย (Hazard) : สถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสี่ยงหรืออันตราย เช่น การทำงานบนแนวหนังสือไฟฟ้า ซึ่งอาจเป็นแหล่งอันตรายเนื่องจากการชนกับไฟฟ้า

2. ความเสี่ยง (Risk) : ความน่าจะเป็นที่อันตรายจะเกิดขึ้นรวมกับความรุนแรงของอันตรายนั้นๆ เมื่อมีโอกาสเกิด

3. อันตราย (Harm) : ความเสียหายทางร่างกายหรือสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเกิดความเสี่ยงหรืออันตราย

4. มาตรการป้องกัน (Protective Measure) : การกระทำหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยง สามารถเป็นฟังก์ชั่นของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มเติม

5. การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) : กระบวนการที่ใช้ในการระบุ ประเมิน และลดความเสี่ยงของเครื่องจักร

6. ฟังก์ชั่นความปลอดภัย (Safety Function) : การกระทำของระบบควบคุมเครื่องจักรที่ช่วยให้เครื่องจักรทำงานในสภาพที่ปลอดภัย และสามารถระบุและรับมือกับความเสี่ยง 

3. ระยะปลอดภัย (Safety Distance)

7. ระยะปลอดภัย (Safety Distance) : ระยะห่างที่เครื่องป้องกันหรืออุปกรณ์ป้องกันต้องอยู่ห่างจากเขตอันตรายเพื่อป้องกันอันตราย

8. โซนอันตราย (Danger Zone) : พื้นที่ภายในหรือรอบๆ เครื่องจักรที่มีความเสี่ยงที่ผู้ใช้หรือบุคคลรอบข้างอาจสัมผัสกับอุปกรณ์เครื่องจักรที่เคลื่อนไหว

9. อุปกรณ์จำกัด (Limiting Device) : อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อจำกัดระยะการทำงาน การเคลื่อนไหว หรือตำแหน่งของเครื่องจักร

10. การหยุดการทำงาน (Operational Stop) : การหยุดการทำงานของเครื่องจักรโดยที่ไม่ต้องตัดการจ่ายพลังงาน

11. การหยุดฉุกเฉิน (Emergency Stop) : อุปกรณ์หรือฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้หยุดการทำงานของเครื่องจักรในกรณีฉุกเฉิน

12. ความเสี่ยงคงเหลือ (Residual Risk) : ความเสี่ยงที่ยังคงอยู่หลังจากใช้มาตรการป้องกันแล้ว

13. ความน่าเชื่อถือ (Reliability) : ความสามารถของเครื่องจักรในการทำงานในเงื่อนไขที่กำหนด

14. อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกัน (Interlocking Device) : อุปกรณ์ที่ช่วยให้เครื่องจักรทำงานตามลำดับที่กำหนด

4. การลดความเสี่ยงมีขั้นตอนหลักดังนี้

การป้องกันความเสี่ยงใน ISO 12100 มีขั้นตอนหลัก คือ

  • การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง : หลีกเลี่ยงแหล่งอันตรายที่เป็นไปได้ทันที เช่น เปลี่ยนที่ตั้งเครื่องจักรหากจำเป็น
  • การประเมินความเสี่ยงที่เหลืออยู่ : ประเมินความเสี่ยงที่ไม่สามารถขจัดได้ โดยคำนึงถึงความรุนแรงและความน่าจะเป็น
  • บทบัญญัติของมาตรการความปลอดภัย : ใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อปกป้องผู้ใช้และบุคคลรอบข้าง
  • การแจ้งผู้ใช้ : ให้ข้อมูลที่เพียงพอและชัดเจนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เหลืออยู่และมาตรการความปลอดภัย
  • การประเมินความเสี่ยง : กำหนดขีดจำกัดของเครื่องจักรและระบุอันตรายที่เป็นไปได้
  • การระบุอันตราย : รายการอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
  • การประมาณความเสี่ยง : กำหนดความรุนแรงและความน่าจะเป็นของอันตราย
  • การประเมินความเสี่ยง : ตัดสินใจว่าความเสี่ยงนั้นสามารถยอมรับได้หรือต้องลดความเสี่ยง

การลดความเสี่ยงมีขั้นตอนหลักดังนี้

  • การออกแบบ : ออกแบบเครื่องจักรให้ปลอดภัยและขจัดอันตราย
  • มาตรการป้องกันและการป้องกันเสริม : การใช้มาตรการป้องกันเช่น สิ่งกีดขวาง ล็อค หรือฟังก์ชั่นการหยุดฉุกเฉิน
  • ข้อมูลผู้ใช้ : การให้ข้อมูลสำหรับผู้ใช้เกี่ยวกับการใช้งาน การติดตั้ง และการบำรุงรักษาเครื่องจักร

สรุป

ISO 12100 เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการป้องกันอันตรายและความเสี่ยงในกิจกรรมก่อสร้างโยธา โดยช่วยให้ผู้ออกแบบและผู้ผลิตสามารถพัฒนาและผลิตเครื่องจักรที่ปลอดภัยและมีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับสิ่งแวดล้อมการก่อสร้างโยธาและผู้ใช้งานทั้งหมด

นอกจาก ISO 12100 แล้วในประเทศไทยยังมีการจัดให้มี เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ให้งานประเภทก่อสร้างเนื่องจากเป็นงานที่มีความเสี่ยงให้เกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยในการดูแลความปลอดภัย ปรับมาตรฐานการทำงานให้ลดความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น อย่าง จป เทคนิค ซึ่งย่อมากจากเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับเทคนิค ที่จะวิเคราะห์ความอันตราย พร้อมจัดทำข้อเสนอแนะในการทำรูปแบบใหม่ เพื่อลดสถิติจำนวนผู้บาดเจ็บในระหว่างการทำงานขององค์กรให้มากที่สุด 

ตามกฎหมายได้กำหนดให้ผู้ที่จะมาทำงานใน ตำแหน่ง จป.เทคนิค จำเป็นต้องเข้าอบรม จป เทคนิค เป็นเวลา 30 ชั่วโมง (แบ่งเป็น 5 วัน) และได้รับวุฒบัตรเพื่อใช้ยืนยันการผ่านอบรม และนำไปขึ้นทะเบียนต่อกรมสวัสดิการฯ

หากคุณสนใจหลักสูตร จป เทคนิค สามารถติดต่อได้ที่:

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

แหล่งรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์และทันสมัยในเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน ที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ในทุกๆวัน

ติดต่อ

Copyright @2024  All Right Reserved – Designed and Developed by  jordanhopfner